The Story of LFS - part 2 : New HDD

กลับมาต่อหลังจากเมื่อวานครับ
วันนี้ระหว่างที่รอ make ก็มาบ่นให้ฟังกันต่อครับ


ความเดิมตอนที่แล้วนี่ถึงตอน make แพคเกจแรกไปเสร็จแล้วกำลังหาทางวางแผนว่า ถ้าตอนmake มันใช้เวลานานขนาดนี้เราจะทำอย่างไร -0- ส่งไม่ทันแน่ๆเลย





หลังจากที่คิดไปคิดมา คิดแล้วคิดอีก ... ก็ตัดสินใจว่า

ถ้ามันช้าขนาดนี้ มีทางเดียวที่จะทำทันก็คือ ต้องทำในเครื่อง Host เท่านั้น

แต่การทำในเครื่อง Host ก็มีปัญหาอีกอย่างนึงที่มองข้ามไม่ได้นั่นก็คือ หากเจ๊งขึ้นมา อาจต้องได้ทำใหม่หมด และไม่สามารถ save state มาทำต่อได้เหมือนตอนใช้ VM จะทำครั้งนึงก็ต้องให้เสร็จไปเลย อีกทั้งปัจจัยรบกวนต่างๆนาๆ ที่ไม่สามารถควบคุมได้ใน Host  แต่ปัญหาทั้งหมดที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้มาคือ ความเร็วที่เพิ่มขึ้น มันก็น่าลองเสี่ยงดู ประมาณว่า เอาน่าลองไปก่อน รีบๆลองจะได้รู้ หาทางแก้ได้ทัน

พอตัดสินใจที่จะไม่ใช้ Virtualbox แล้ว  ปัญหาก็ตามมาอีกครับ  รู้สึกปัญหาผมจะเยอะซะเหลือเกิน *0*
คราวนี้ปัญหามันอยู่ที่ HDD ครับ ในคู่มือเค้าต้องการพื้นที่อย่างน้อย 10GB ครับ สำหรับการทำ LFS
บางคนอาจจะมองว่าเล็กน้อย แต่สำหรับผมแล้ว 10GB นี่มันฆ่ากันชัดๆ  เพราะว่าพื้นที่ใน HDD นี่แทบจะไม่เหลือแล้ว  ที่ใช้อยู่ปกตินี่ก็เหลือ อย่างมากไดรฟ์ละ 1-2 GB เท่านั้น แต่มันเหลือแบบกระจัดกระจาย จะย้ายข้อมูลมารวมกัน ก็เหลือไม่ถึง 10 GB อยู่ดี


แต่ทว่าบังเอิญเพื่อนมี HDD เก่าที่ไม่ได้ใช้ เราก็เลยไปขอยืม HDD มาจนได้ เป็น IDE-40GB
ก็เป็นอันว่าปัญหานี้ก็หมดไป ต้องขอบคุณเพื่อนคนนั้นมาก -0-


พอได้ HDD มาก็ไม่รอช้า เราก็จัดแจงต่อเข้ากับ PC ของเราทันที ซึ่งก็ต่อผิดต่อถูก เซตค่ามั่วๆ ลองผิดลองถูกอยู่ตั้งนาน กว่าจะต่อได้
ก็เพราะว่า HDD ตัวที่ยืมมาเป็นรุ่นเดียวกันกับที่มีอยู่เป๊ะ รูปร่างเหมือนกัน หมายเลขเดียวกัน ความจุเท่ากัน เอามาวางเทียบกันนี่อาจจะหยิบผิดได้
ตอนบูทในคอม ก็งงสิครับ เราไม่แน่ใจว่าเราต่อถูกหรือเปล่า ก็หมายเลขมันเหมือนกัน ใครจะไปรู้จนกว่าจะได้ดูข้อมูลข้างใน

สถานะของ HDD ขณะนี้คือ
- IDE(1) 40GB -> C:\     (เก็บเพลงและไฟล์ใหญ่ๆ)
- SATA(1) 20GB -> D:\   (windows)
    30GB -> E:\    (เก็บไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาจากเน็ต+งานเล็กน้อย)
    30GB -> F:\    (งานทั้งหมด)
- IDE(2) 40GB -> J:\   (ที่ยืมเพื่อนมา)


การที่ windows ผมดันไปลงไว้ที่ SATA D:\ ก็เนื่องด้วยตอนนั้นยังอ่อนต่อโลกนัก คิดว่า SATA มันเป็นเทคโนโลยีใหม่กว่า มันน่าจะดีกว่า IDE   ซึ่งเป็นความคิดที่ไม่ถูกนัก เพราะ IDE เป็นการส่งแบบ parallel (ขนาน) ส่วน SATA เป็นแบบ serial (อนุกรม)  แล้วการที่คอมช้าแล้วเลือก SATA เป็นไดรฟ์ OS จึงไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะ SATA จะดีได้ ก็ต่อเมื่อ CLK CPU สูงเท่านั้น   คอมกากๆอย่างผมจึงหมดสิทธิ์  ซึ่งการกระทำนี้เป็นการไม่เจียมตัวอย่างยิ่ง คอมช้าแต่ สะเออะ ใช้ SATA    555+

ด้วยเหตุนี้ คอมจะอ่าน IDE ก่อน SATA      จะทำการ boot IDE ก่อน SATA เสมอ
คอมคนอื่นไม่รู้ แต่คอมผมไปตั้งค่าตอน boot ให้ HDD ตัวที่มี windows boot ก่อน  มันก็ boot C:\ ก่อนอยู่ดี

แล้วที่นี้ถามว่า แล้วที่ผ่านมาผมเปิดเครื่องได้ยังไง ในเมื่อแก้ลำดับการ boot HDD ไม่ได้

วิธีแก้ก็คือ เราก็แก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยการ ไปตั้งค่า first boot device ให้มันอ่าน CR-ROM ก่อน HDD
จากนั้นเราก็เอาแผ่น windows นี่ล่ะครับ ยัดเข้าไป รุ่นไหนก็ได้ แต่แนะนำให้ให้รุ่นใกล้เคียงกับที่เราลง
แล้วก็นั่งดูเฉยๆครับ  พอถึงหน้าจอที่มันบอกว่า Press any keys for boot from CD ... ก็ไม่ต้องไปกดอะไรมันครับ รอให้มันผ่านไป มันก็จะ boot เข้า windows ให้อัตโนมัติ
สรุปก็คือ ต้องหาแผ่น windows อะไรก็ได้ครับ มาหลอกให้คอมมัน boot CD พอเราไม่ได้ทำอะไรแล้วมันก็จะไปหา HDD ที่มี windows มา boot ต่อนั่นเอง


พล่ามมานานมาก ย้อนความกลับไปครับ กลับไปตอนที่เชื่อมต่อ HDD ได้แล้ว  ก็จัดการลง Ubuntu ไปเลยใน HDD ใหม่เลย เรียบร้อยเสร็จสรรพ


และแล้วก็ถึงเวลาเริ่มทำตามคู่มือใหม่อีกที  คิดไว้ว่า .. คราวนี้แหล่ะไม่พลาดแน่กุ *0*

ก็จัดการไปเรื่อยๆ จนถึงบทที่ 2 ที่มันให้แบ่ง partition  เรามาดู..  เอ๊ะ ทำไมมัน error วะ - -*
งง สิครับ..  เห้ย ... พลาดตรงไหน

เป็นหนังม้วนเก่าครับ  พอทำไม่ได้ก็ต้องไปปรึกษาเพื่อนผู้รู้ จริงไหมครับ
ว่าแล้ว ก็ไปถามเพื่อนผู้รู้..  เพื่อนผู้รู้ก็ตอบว่า..

"ตอนลง linux อ่ะ มันต้องแบ่งเป็น OS แล้วก็ swap partition ด้วย"
...
...
...



อ๊ะ... swap partition มันคืออะไรวะ  นี่แสดงว่าตรูทำผิดมาตั้งแต่แรกเลยใช่ไหมเนี่ย *0*

สรุปคือก็ต้องมานั่งลง Ubuntu ใหม่อีกรอบครับ ~~

ยังไปไม่ถึงไหนเลย -0- งานจะเสร็จหรือไม่  คงต้องติดตามกันต่อไป....

Comments

Popular posts from this blog

Get original image from tistory.com : วิธีดาวโหลดภาพต้นฉบับจาก เว็บ tistory.com

พบกับ blogger โฉมใหม่ - เพิ่ม theme responsive เพียบ

ไปงานติ่งครั้งแรก กับ crayonpop